Red Hat อัพเดต RHEL เป็นรุ่น 7.3 อัพเดตซอฟต์แวร์ชุดใหม่ๆ เข้ามาทำให้ได้รับฟีเจอร์ใหม่ดังนี้
ด้านประสิทธิภาพ มีการอัพเดตระบบจัดการหน่วยความจำทำให้รองรับเน็ตเวิร์คระดับ 40Gbps ถึง 100Gbps ได้ดีขึ้น พร้อมกับรองรับ non-volatile memory (NVM) รุ่นใหม่ๆ
ด้านความปลอดภัย อัพเดต SELinux ให้สร้าง policy ได้เร็วขึ้น ปรับปรุง OpenSCAP และการเชื่อมต่อกับ Active Directory
ฝั่ง IoT เพิ่มฟีเจอร์อีกสองอย่างคือการรองรับ Bluetooth LE สำหรับการเชื่อมต่อกับเซ็นเซอร์ และการเชื่อมต่อกับบัส CAN สำหรับการควบคุมอุปกรณ์ทางอุตสาหกรรม
ฟีเจอร์อื่นๆ เพิ่มเติม
- การเชื่อมต่อระบบเครือข่ายของ Guest Instance ของ RHEL 7.3 ปลอดภัยขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- รองรับ 40Gbps และ 100Gbps Network Interface ได้ดีขึ้น
- รองรับ Non-volatile Memory เพื่อใช้เพิ่มความเร็วของ I/O และลด Latency ลง
- รองรับ Block SCSI Layout Formant และ Flex Files Layout Format บน Parallel NFS (pNFS) SELinux สามารถควบคุมและกำหนดสิทธิ์ได้ลึกมากขึ้น
- มี OpenSCAP สำหรับทำ Security Content Automation Protocol (SCAP) เพื่อทำ Compliance ให้กับ Workload ทั้งแบบเดิมและบน Container
- ปรับปรุง Red Hat Identity Management ให้สามารถติดตั้งได้เร็วขึ้น, รองรับการยืนยันตัวตนด้วย Smart Card ร่วมกับ Active Directory ได้ และปรับระดับเข้มงวดในการยืนยันตัวตนสำหรับแต่ละเครื่องและแต่ละบริการให้ต่างกันได้
- มี Pacemaker ในตัวสำหรับทำ Multi-site Clustering และ Stretch Clustering รองรับการทำ Disaster Recovery ได้ในตัว และมีระบบแจ้งเตือนด้วย
- เพิ่มเครื่องมือการบริหารจัดการ Container อย่าง Atomic CLI หรือ Cockpit และใช้ Docker Engine รุ่นใหม่ล่าสุด รวมถึงมีการเพิ่ม Container Signing มาให้ลองใช้กันได้แบบ Technology Preview ด้วย
- รองรับการสื่อสารผ่านทาง Bluetooth Low Energy (BLE) ได้
- รองรับโปรโตคอล Controller Area Network bus (CANbus) ได้ที่ระดับ Kernel สำหรับใช้เชื่อมต่อกับยานยนตร์และเครื่องจักรได้
ที่มา : Red Hat newsroom