ยังจำได้หรือไม่? ปัญหาการล็อกอินได้ด้วย root ของ macOS High Sierra โดยที่ไม่ต้องใส่รหัสผ่านก็สามารถเข้าสู่ระบบได้เลย และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ดูเหมือนว่าทาง Apple พยายามที่จะแก้ไขปัญหานี้โดยทำการออกแพทช์อัพเดตเพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างรวดเร็ว แต่สุดท้าย ดูเหมือนว่าวิธีการแก้ปัญหาของ Apple ในครั้งนี้ยังไม่สามารถจัดการปัญหาได้ทั้งหมด ผู้ใช้หลายรายได้ทำการยืนยันกับทาง WIRED (เป็นเว็บไซต์ที่รวบเรื่องราวที่น่าสนใจ และสร้างแรงยันดาลใจที่สุดในโลก) ว่า ผู้ใช้ที่ทำการอัปเกรดระบบปฏิบัติการของตนจากเวอร์ชันเดิมของ High Sierra 10.13.0 เป็นเวอร์ชันล่าสุด 10.13.1 เมื่อทำการดาวน์โหลดแพทช์แล้วพบว่า ปัญหา “root” ยังคงมีอยู่จนกว่าจะทำการรีบูทเครื่องจนกว่าจะขึ้นเตือนว่าไม่ต้องรีบูทเครื่องอีก โดยที่ทาง Apple ได้ให้ข้อมูลไว้ในหน้า Support ของ Apple ซึ่ง ถ้าการปรับปรุงด้านความปลอดภัยอย่างถูกต้อง หรือถ้าหากเห็น MRTConfigData 1.27 ในรายการ Installations ใน Software in System Report แสดงว่าเครื่องได้รับการป้องกันปัญหานี้แล้ว และเพื่อยืนยันว่าเครื่อง Mac ของคุณมี Security Update 2017-001 ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ :
- เปิดแอ็พพลิเคชัน Terminal ซึ่งอยู่ในโฟลเดอร์ Utilities ของโฟลเดอร์ Applications ของคุณ
- พิมพ์ / usr / libexec / opendirectoryd และกด Return3. ถ้ามีการติดตั้งการปรับปรุงการรักษาความปลอดภัย 2017-001 เรียบร้อยแล้วจะเห็นหมายเลขเวอร์ชัน ดังต่อไปนี้ :
– pendirectoryd-483.1.5 ใน macOS High Sierra 10.13
– opendirectoryd-483.20.7 ใน macOS High Sierra 10.13.1
ถ้าคุณต้องการใช้บัญชี root บนเครื่อง Mac คุณต้องทำการเปิดบัญชีผู้ใช้ root ใหม่และเปลี่ยนรหัสผ่านของผู้ใช้ root หลังจากการอัพเดทนี้สัปดาห์นี้ถือว่าเป็นสัปดาห์แห่งปัญหาของ Apple เลยทีเดียว ไหนจะปัญหา MacOS High Sierra แล้วยังจะเจอปัญหา iOS บน iPhone อีก เรียกได้ว่า Apple กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายในการตรวจสอบกระบวนการพัฒนาเพื่อให้มั่นใจว่าปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป
ที่มา WIRED, Apple Support, THE VERGE
ที่มาของภาพ WCCFTECH